ประธานาธิบดี ยุน ซุก ยอล กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นในการเสริมศักยภาพด้านการป้องกันนั้นยากที่จะหยุดยั้งเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

ยุนกล่าวในระหว่างการบรรยายสรุปนโยบายร่วมกันจากรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหม โดยอ้างถึงการเพิ่มงบประมาณกลาโหมของญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ และการรวมแนวคิด “ตอบโต้” ไว้ในเอกสารด้านความมั่นคงฉบับแก้ไข “เราอาจสงสัยได้ว่าประเทศที่รับเอารัฐธรรมนูญแห่งสันติมาใช้ทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร แต่ถ้ามีขีปนาวุธบินอยู่เหนือหัวและมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุด” เขากล่าวระหว่างการประชุมที่บ้านพักอดีตประธานาธิบดี ของชองวาแด.

“ญี่ปุ่นเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพราะมี IRBM บินอยู่เหนือหัวของพวกเขา และตัดสินใจที่จะรวมแนวคิดที่เรียกว่า ‘เคาน์เตอร์สไตรค์’ ไว้ในแผนการป้องกัน” เขากล่าวโดยอ้างถึงขีปนาวุธพิสัยกลางที่เกาหลีเหนือยิงใส่ญี่ปุ่น “ใครจะมีปัญหากับสิ่งนั้นได้อย่างไร”

ยุนยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตอบโต้อย่างหนักแน่น

ต่อการยั่วยุทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของระบบการป้องปราม “สามแกน” คือ Korea Massive Punishment and Retaliation (KMPR) ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการที่จะทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือไร้ความสามารถ ในความขัดแย้งครั้งใหญ่

“เราต้องยับยั้งการยั่วยุด้วยการจัดตั้ง KMPR อย่างมั่นคง” เขากล่าว “การสร้างความสามารถ KMPR อย่างแน่นหนาซึ่งช่วยให้เราสามารถโจมตีกลับได้ 100 เท่าหรือมากกว่า 1,000 เท่าหากเราถูกโจมตีเป็นวิธีการที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการโจมตี”

ยุนยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ของอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ โดยกล่าวว่าหากการยั่วยุของเกาหลีเหนือรุนแรงขึ้น “สาธารณรัฐเกาหลีสามารถติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีหรือมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง”

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ shorthornhousing.com